Tag Archive for: นนทบุรี

วัดโชติการาม

วัดโชติการาม [โช-ติ-กา-ราม] เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 3 บ้านบางไผ่ใหญ่ ตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

วัดโชติการามเดิมมีชื่อว่า วัดสามจีน สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2350 สันนิษฐานว่าอาจเป็นพี่น้องชาวจีน 3 คน เป็นผู้สร้าง ต่อมาเจ้าพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ไม่ปรากฏหลักฐานว่าเป็นเจ้าพระยาโชฎึกฯ คนใด) เป็นผู้ดำเนินการบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติม วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2460 ต่อมาใน พ.ศ. 2483 ได้เปลี่ยนนามวัดใหม่เป็น “วัดโชติการาม” ตามราชทินนามของเจ้าพระยาโชฎึกฯ ในด้านการศึกษา วัดได้จัดให้มีการสอนพระปริยัติธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 นอกจากนั้นยังให้ราชการเปิดโรงเรียนและสถานีอนามัยในวัด

พระอุโบสถของวัดมีฐานอ่อนโค้งทรงสำเภา ไม่มีช่อฟ้าใบระกา ด้านหน้ามีพาไล หน้าบันปั้นเป็นรูปภูริทัตชาดกท่ามกลางลายปูนปั้น ไม้ดอกไม้ประดับ เครื่องถ้วยชาม ซุ้มจระนำประดับถ้วยชามด้วยเช่นกัน วิหารทรงโรงก่ออิฐถือปูน 3 ห้อง ภายในมีพระประธานปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี นามว่า หลวงพ่อสุโขทัย มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพพุทธประวัติตอนต่าง ๆ ประตูด้านหน้าวิหารสลักเป็นภาพทวารบาลอย่างจีน วัดยังมีธรรมาสน์ คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงอยุธยาตอนต้น สันนิษฐานว่าเก่าแก่ที่สุดในย่านนี้ นอกวิหารมีกำแพงแก้วโดยปรางค์ขนาดเล็กประดับกระเบื้องเหลืองอยู่ที่มุมกำแพงทั้งสี่ มีเจดีย์ย่อมุมไม้ยี่สิบอยู่ระหว่างโบสถ์กับวิหาร กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระอุโบสถ วิหาร เจดีย์ และศาลาการเปรียญหลังเก่าของวัดเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2540

แหล่งข้อมูล: https://th.wikipedia.org/

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

พิกัด Google Map

ข้อมูลการเดินทาง

วิธีการไปยัง วัดโชติการาม (สามจีน) ที่ เมืองนนทบุรี คลิก

วัดสังฆทาน

วัดสังฆทาน เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 3 บ้านบางไผ่ใหญ่ ตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 25 ไร่ ปัจจุบันพระครูปลัด ไพรินทร์ สิริวฑฺฒโน ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

สันนิษฐานกันว่าวัดสังฆทานเดิมชื่อ วัดศาริโข สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายโดยช่างที่มีความชำนาญตามแบบลังกาวงศ์ในสมัยสุโขทัย โดยพิจารณาจากพุทธลักษณะขององค์หลวงพ่อโตซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะแบบอู่ทอง กระเบื้องเชิงชายหรือกระเบื้องหน้าอุดของหลังคาอุโบสถหลังเก่า และอิฐที่สร้างองค์พระกับฐานอุโบสถ ต่อมาวัดขาดผู้ทะนุบำรุงจนกลายเป็นวัดร้างกลางสวนผลไม้ แต่ชาวบ้านยังคงเข้ามาสักการะหลวงพ่อโตและนิมนต์พระสงฆ์จากละแวกใกล้เคียงมาเพื่อถวายสังฆทานเป็นประจำจนเรียกขานกันติดปากว่า “วัดสังฆทาน” จากนั้นหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ ได้เดินทางมาพบวัดเมื่อ พ.ศ. 2511 และร่วมกับพระเณรและชาวบ้านดำเนินการบูรณะพัฒนาเมื่อ พ.ศ. 2517 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศยกฐานะจากวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์จำพรรษาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 60 เมตร และได้ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523

แหล่งข้อมูล: https://th.wikipedia.org/

Facebook: วัดสังฆทาน

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

พิกัด Google Map

ข้อมูลการเดินทาง

วิธีการไปยัง วัดสังฆทาน ที่ เมืองนนทบุรี คลิก

วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร

วัดเขมาภิรตาราม เป็นวัดโบราณ สร้างสมัยอยุธยาหรือก่อนสมัยอยุธยา พระเจ้าอู่ทองทรงบูรณปฏิสังขรณ์เป็นวัดหลวงในสมัยอยุธยา ในสมัยรัตนโกสินทร์ วัดเขมาภิรตารามเป็นวัดที่อยู่ในสังกัดบัญชีกฐินหลวงของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ เดิมเรียกว่า วัดเขมา บางครั้งเรียกว่า “วัดเข็นมา” (คำว่า เขมา มีความหมายว่า ความเกษมสุข ความพ้นจากเครื่องห่วงใย ความปลอดจากกังวลทั้งหลาย)

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีโปรดให้สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎพระราชโอรส (ซึ่งต่อมาได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) เสด็จไปเฝ้าสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ เพื่อกราบทูลขอวัดเขมาเป็นวัดสำหรับกฐินในสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี จากนั้นได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์บูรณปฏิสังขรณ์วัดเขมาพร้อมกับอัญเชิญพระพุทธรูปหล่อเก่าแก่จากพระราชวังจันทรเกษมที่อยุธยามาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ และมีการฉลองใน พ.ศ. 2371 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงบูรณปฏิสังขรณ์เพื่อฉลองพระคุณสมเด็จพระบรมราชชนนี แล้วพระราชทานนามเพิ่มว่า วัดเขมาภิรตาราม

แหล่งข้อมูล: https://th.wikipedia.org/

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

พิกัด Google Map

ข้อมูลการเดินทาง

วิธีการไปยัง วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร ที่ เมืองนนทบุรี โดย รถบัส, รถไฟใต้ดิน หรือ เรือ? คลิก

อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก

อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใน ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ติดกับวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหารเลยค่ะ ที่นี่สร้างขึ้นมาเพื่อในวโรกาสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น ทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ50 ปี ด้านในของอุทยานฯ จะมีสถาปัตยกรรมที่สวยงดงาม รวมถึงยังเป็นสถานที่พักผ่อน และไว้ออกกำลังกายของประชาชนทั่วไปอีกด้วย

นอกจากนั้นที่นี่ ยังเป็น ศูนย์รวมพันธ์ไม้น้ำ ไม้ชายน้ำ พืชสวน สัตว์น้ำชนิดต่างๆ และมีอาคารงดงามอย่าง อาคารที่ชื่อว่า วิมานสราญนวมินทร์ เป็นอาคารพลับพลาโถง ที่อยู่กลางสระน้ำ และมีศาลาจตุรมุข สวยงามกว่าสามหลังอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ซึ่งชื่อของ อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก นั้น ก็ได้พระราชทานนามมาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 นั่นเอง

อีกที่เที่ยวแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ใกล้กรุงเทพฯ ชิลๆ ที่เหมาะกับครอบครัวมากๆ เพราะสามารถ ขี่จักรยาน ปิคนิค วิ่งออกกำลังกาย รวมไปถึง สามารถมาถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้งได้อีกด้วยค่ะ เพราะบริเวณรอบๆ นั้นจะเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ช่วยให้ร่มเงา เลยมีผู้คนเดินทางมาพักผ่อนทั้งยามเช้าและยามเย็นกันอย่างมากมายเลย

ใครอยากออกมาสูดอากาศรับลมเย็นๆ ก็ลองแวะมาเที่ยวกันที่ อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ที่ นนทบุรี แห่งนี้ดูนะคะ น่าจะถูกใจคนที่ชอบสวนสวยๆ ลมเย็นๆ พกกล้องสักตัวมาถ่ายรูป ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยค่ะ มาค่ะ ออกมาชิลให้วันหยุดนี้ไม่น่าเบื่อกัน

แหล่งข้อมูล: https://travel.trueid.net/detail/joR2A3L6lexo

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

พิกัด Google Map

ข้อมูลการเดินทาง

วิธีการไปยัง อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ที่ เมืองนนทบุรี โดย รถบัส หรือ เรือ? คลิก

วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร

วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในหมู่ที่ 3 บ้านท่าน้ำนนท์ ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 160 ปี ปัจจุบันมี พระเทพวชิรนันทาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เจ้าอาวาสวัดบัวขวัญ รักษาการเจ้าอาวาสวัดเฉลิมพระเกียรติ

วัดนี้จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นโทของจังหวัด เช่นเดียวกับวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหารบนเกาะเกร็ด สร้างขึ้นเมื่อปี 2392 ตามพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นตรงที่เป็นนิวาสสถานเดิมของพระยานนทบุรีศรีมหาอุทยาน (บุญจัน) อดีตเจ้าเมืองนนทบุรี กับคุณหญิงเพ็ง ผู้เป็นพระอัยกา (ตา) และพระอัยยิกา (ยาย) ของพระองค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีสุลาลัย (เจ้าจอมมารดาเรียมในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) ผู้เป็นพระราชมารดา โดยพระราชทานนามว่า “วัดเฉลิมพระเกียรติ” ตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จในรัชสมัยนี้เนื่องจากพระองค์เสด็จสวรรคตเสียก่อนเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2394

สิ่งสำคัญภายในวัดคือพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณใกล้กับท่าน้ำของวัดนอกจากนี้ยังมีกำแพงแก้วล้อมรอบพระอุโบสถที่ทำเป็นกำแพงป้อมค่ายแห่งเดียวในประเทศไทย จึงทำให้วัดแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครแนวย้อนยุคหลายเรื่อง

เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2562 ทางจังหวัดนนทบุรีได้กระทำพิธีพลีกรรมตักน้ำบริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดเฉลิมพระเกียรติเพื่อนำไปใช้เป็นน้ำอภิเษกเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะถือว่าแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าวัดเฉลิมพระเกียรติเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เพียงแห่งเดียวของจังหวัด

แหล่งข้อมูล: https://th.wikipedia.org/

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

พิกัด Google Map

ข้อมูลการเดินทาง

วิธีการไปยัง วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร ที่ เมืองนนทบุรี โดย รถบัส หรือ เรือ? คลิก

ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า

เดิมเป็นโรงเรียนราชาวิทยาลัย กระทรวงยุติธรรม สร้างขึ้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ตัวอาคารเป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สร้างด้วยไม้สักทอง ศิลปกรรมยุโรปผสมไทย ด้วยลวดลายฉลุไม้วิจิตรงดงาม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ภายในอาคารจัดแสดงเรื่องราวที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ ย้อนรอยอดีตเล่าเรื่องวันวานของจังหวัดนนทบุรี แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและภูมิปัญญาชาวบ้าน รวมถึงงานวิจิตรศิลป์ชั้นเยี่ยม ประติมากรรมดินเผาและชมภาพอดีตในยุคทองของการค้าเครื่องปั้นดินเผาที่เกาะเกร็ดซึ่งกลับคืน ชีวิตด้วยเทคนิคพิเศษ

ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า (พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี) เดิมทีเป็นโรงเรียนราชวิทยาลัย กระทรวงยุติธรรม สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ตัวอาคารเป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ประดับศิลปะแบบยุโรปผสมผสานศิลปะแบบไทยเข้าด้วยกัน ด้วยลวดลายฉลุไม้วิจิตรงดงาม ภายในจะมีผลงานนิทรรศการเล่าเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของบุคคลสำคัญในจังหวัดนนทบุรี รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวนนทบุรีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีเนื้อที่ทั้งหมด 2 ไร่ 2 งาน 51 ตารางวา เปิดบริการทุกวันอังคาร ถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. แต่เสาร์และอาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. ติดต่อ 0 2589 5479

  • ตัวอาคารไม้สักทอง 7 หลัง สมัยรัชกาลที่ 6
  • นิทรรศการภาพวาด วัฒนธรรมท้องถิ่น วิถีชีวิต
  • ปัจจุบันพื้นที่บางส่วนใช้วิทยาลัยมหาดไทย
  • วิถึชีวิตของคนในจังหวัดนนทนบุรี

แหล่งข้อมูล: https://thailandtourismdirectory.go.th/attraction/3477

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

พิกัด Google Map

ข้อมูลการเดินทาง

วิธีการไปยัง ศาลากลางหลังเก่าจังหวัดนนทบุรี ที่ เมืองนนทบุรี โดย รถบัส, รถไฟใต้ดิน หรือ เรือ? คลิก

เกาะเกร็ด

เกาะเกร็ด เป็นเกาะแม่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และมีฐานะเป็นตำบลหนึ่งในท้องที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 4.2 ตารางกิโลเมตรหรือ 2,625 ไร่ เป็นที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายมอญที่มีอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผาเป็นส่วนใหญ่

เกาะเกร็ดเกิดจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปี พ.ศ. 2265 ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ คลองลัดดังกล่าวเรียกว่า “คลองลัดเกร็ดน้อย” หรือ “คลองเตร็ดน้อย” ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงสยามฉบับบริติชมิวเซียมตอนหนึ่งว่า

“ในปีขาล จัตวาศก ทรงพระกรุณาโปรดให้พระธนบุรีเป็นแม่กอง เกณฑ์พลนิกายคนหัวเมืองปากใต้ให้ได้คน ๑๐,๐๐๐ เศษ ให้ขุดคลองเตร็ดน้อย ลัดคุ้งบางบัวทองนั้นคดอ้อมนัก ขุดลัดตัดให้ตรง พระธนบุรีรับสั่งแล้วถวายบังคมลามา ให้เกณฑ์พลนิกายในบรรดาหัวเมืองปากใต้ได้คน ๑๐,๐๐๐ เศษ ให้ขุดคลองเตร็ดน้อยนั้นลึก ๖ ศอก กว้าง ๓ วา ยาวทางไกลได้ ๒๙ เส้นเศษ ขุดเดือนเศษจึ่งแล้ว”

ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศเนื่องจากไหลทางตรงได้สะดวกกว่าและกัดเซาะตลิ่งทำให้คลองสายนี้ขยายเป็นแม่น้ำลัดเกร็ด แผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะกลางแม่น้ำ ในรัชสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระบุในโฉนดชื่อว่า เกาะศาลากุล ตามชื่อวัดศาลากุลที่สร้างโดยเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (กุน รัตนกุล) ตั้งแต่สมัยธนบุรี ต่อมาเมื่อตั้งอำเภอปากเกร็ด จึงเรียกเป็น เกาะเกร็ด

แหล่งข้อมูล: https://th.wikipedia.org/

รูปภาพ: https://chillpainai.com/scoop/13076

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

พิกัด Google Map

ข้อมูลการเดินทาง

รถยนต์ส่วนตัว สามารถไปจอดรถยนต์ได้ที่วัดสนามเหนือ (วัดปิดประตู 3 ทุ่ม แสดงว่าใครเอารถมาอยู่ได้ถึง 3 ทุ่ม) โดยวันจันทร์-ศุกร์ จอดรถยนต์ฟรี แต่วันเสาร์-อาทิตย์มีการเก็บค่าจอดรถยนต์

เมื่อจอดรถยนต์แล้ว ให้เดินทางไปยัง “จุดนั่งเรือข้ามฝั่ง” ซึ่งจะจ่ายค่านั่งเรือ (มีค่าบริการขาไป 3 บาท และ ขากลับ 3 บาท) เมื่อถึงฝั่งเกาะเกร็ดแล้วบริเวณนั้นจะมีให้เช่า รถจักรยาน (50 บาท) และมอไซต์ไฟฟ้า (150 บาท) แบบเหมาตลอดทั้งวัน

วิธีเดินทางเที่ยวเกาะเกร็ด ด้วยรถไฟฟ้า สายสีชมพู คลิก